
จากนวนิยายขายดีของ Richard Osman สู่หน้าจอภาพยนตร์ The Thursday Murder Club (2025) ผลงานของผู้กำกับ Chris Columbus ภาพรวมอาจดูเหมือน “คดีฆาตกรรมสบายๆ” แต่เมื่อเริ่มดำดิ่งเข้าไปในโลกของผู้สูงวัยสาม–สี่คนที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา ก็พบว่ามันเต็มไปด้วยความทรงจำที่ซ้อนกัน ความเหงาที่โลดแล่น และคำถามว่า “เมื่ออายุมากแล้ว แก่ตัวแล้ว … ยังแก้ปมชีวิตได้อีกไหม”
ใน “คูเปอร์ เชส” บ้านพักสุดหรูของผู้เกษียณ หุ้นส่วนชีวิตวัยเก๋า Elizabeth Best (Helen Mirren) อดีตสายลับ, Ron Ritchie (Pierce Brosnan) อดีตพรรคแรงงาน, และ Ibrahim Arif (Ben Kingsley) อดีตจิตแพทย์ รวมตัวกันในชมรมแกะรอยคดีเย็นสัปดาห์ละครั้งโดยไม่ต้องสวมสูทหรือแม้แต่ใบอนุญาต แต่เมื่อผู้ประกาศโครงการพัฒนาที่ดินและคู่หูของเขาถูกฆาตกรรมอย่างลึกลับ พวกเขาจึงถูกลากเข้าเกมที่ไม่ใช่แค่ “คดีเย็น” อีกต่อไป … คดีนี้ร้อนและเกี่ยวพันกับชีวิตของเพื่อนบ้านของพวกเขาเอง
จังหวะหนังเริ่มด้วยบรรยากาศลับๆ ของผู้สูงวัยที่ไม่ยอมถูกมองว่า “หมดค่า” — สนทนาเรื่องคดีเก่า เล่าอดีตหัวไวด้วยครบทักษะชีวิต แต่พอคดีจริงโผล่ พวกเขาต้องเปลี่ยนจากเบาะๆ มาเป็นนักสืบสมัครเล่น เต็มใจทุกรายละเอียด และหนังได้แทรกมุขเบาๆ ที่อาจเรียกว่า “คอเมดี้คนแก่สืบคดี” ได้อย่างลงตัว … แต่ก็แลกด้วยว่า “ความโหด” อาจไม่จัดเต็มและ “ความซับซ้อน” อาจถูกลดทอนไปเพื่อให้เหมาะกับโทนภาพรวม.
ตัวละครของ Mirren, Brosnan และ Kingsley แสดงได้ชัดเจน: Elizabeth คือคนที่จำทุกรอยฝันได้แม้จะลืมชื่อ รอนคือชายที่เคยสู้เพื่อเสียงของคนจนและตอนนี้ต้องเรียนรู้ว่าจะใช้เสียงยังไงในวัยที่คนไม่ฟังแล้ว และอิบราฮิมคือแพทย์ที่รักษาคนอื่นมาตลอดจนลืมที่จะรักษาตัวเอง เสียงหัวเราะในฉากสนทนา สายตาที่หลุดไปในอดีต หรือแม้แต่เสียงเดินจรดพื้นห้องประชุมชมรม ล้วนเติมน้ำหนักให้เรื่องนี้มากกว่าคดีจะทำได้
แต่แม้จะมีเสน่ห์ หนังกลับมีจุดอ่อนที่ชัดเจน: ทริกชั้นเชิงคดีไม่หนักเท่า whodunit ชั้นครู เนื้อเรื่องบางช่วงกระโดดไปเร็ว และผู้ชมบางคนอาจรู้สึกว่า “คดีนี้” ไม่ได้ทำให้ตื่นเต้นจนใจเต้นแรง รีวิวหลายแห่งจารึกว่าแม้เต็มไปด้วยชื่อใหญ่ แต่ภาพรวมยังคงอยู่ในโหมด “คดีเบาๆ” มากกว่า “คดีลับซับซ้อน”
สำหรับผมแล้ว The Thursday Murder Club คือหนังที่เหมาะสำหรับค่ำคืนชิลๆ—เปิดไว้แบบไม่ต้องคิดมากแต่ยังได้หัวเราะ ได้เห็นวัยเก๋าไม่ยอมหยุด และได้คิดว่า “เมื่อชีวิตเข้าสู่จุดที่คนคิดว่าเราเงียบแล้ว เราจะยังมีเสียงยังมีเรื่องที่ต้องเล่าไหม”
คะแนน IMDb: 6.5/10 (จากผู้ใช้ประมาณ 63,000 รีวิว)
คะแนนผู้เขียน: 7.0/10 — เพราะแม้ไม่ใช่หนังคดีเดือด แต่สมดุลในมิติคนแก่+คดี+มุก ได้ค่อนข้างดี
